ล้ำสุด กับการนำ AI มาใช้วิเคราะห์หุ้น เชื่อดีหรือไม่ ?
21 May 2020 | 4467
- Deepscope Site Admin
ล้ำสุด กับการนำ AI มาใช้วิเคราะห์หุ้น เชื่อดีหรือไม่ ?
ยุคนี้เป็นยุคของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ทุกอย่างรอบตัวจึงเต็มไปด้วย AI ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน เครื่องใช้ในบ้าน หม้อหุงข้าว ตู้เย็น เครื่องดูดฝุ่น สมาร์ททีวี แม้แต่วงการตลาดหุ้น-ตลาดทุนก็ยังมีการนำ AI เข้ามาช่วยในการเทรดหุ้นและลงทุน ในต่างประเทศอาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะได้นำมาใช้มากกว่า 10 ปีแล้ว แต่สำหรับประเทศไทย ยังเป็นเรื่องใหม่มาก และยังมีสัดส่วนการใช้โรบอทเข้ามาช่วยเทรดเพียงแค่ 20% ของมูลค่าการซื้อขายรวมต่อวัน และแม้นักเทรดหุ้นของไทยจะรู้ว่าการใช้ AI เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ยังมีข้อกังขาเกิดขึ้นกับนักเทรดแบบ Original อยู่ดี
วันนี้ไปดูกันว่าการนำ AI หรือโรบอทมาช่วยในการเทรดหุ้นนั้นทำได้อย่างไรบ้าง
AI มีความแม่นยำในการเลือกหุ้นหรือกองทุนได้ดีกว่ามนุษย์
ด้วย AI นั้นทำงานอยู่บนข้อมูลย้อนหลังเป็นจำนวนมาก จึงสามารถวิเคราะห์แนวโน้มหุ้นแต่ละตัวได้ สามารถ Screen และคัดสรรหุ้นได้อย่างแม่นยำ
บริษัทนายหน้าหรือโบรคเกอร์ในประเทศไทยได้นำ AI เข้ามาช่วยในการเทรดหุ้น โดยให้ AI สกรีนหุ้น จัดอันดับหุ้นว่าหุ้นตัวไหนน่าซื้อที่สุด รวมถึงการทำ Scoring และโบรคเกอร์ยังใช้ AI ในด้านการลงทุนในกองทุนรวม โดย AI มีหน้าที่ไปเลือกกองทุนมา ดูว่ากองไหนเหมาะสมกับการลงทุน เช่น กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ อสังหา หรือทองคำ เป็นต้น
AI ไม่มีความรู้สึก สามารถตัดสินใจในภาวะตลาดผันผวนได้ดีกว่า
ด้วยเพราะการเทรดด้วยคนนั้นต้องใช้ทั้งข้อมูลและความรู้สึกในการตัดสินใจในการส่งคำสั่งซื้อหุ้น การลังเลสงสัยทำให้ใช้เวลาในการตัดสินใจเยอะเกินไป ส่งผลให้เกิดความผิดพลาดในการเทรดหุ้นขึ้นได้ ต่างจากโรบอทที่ใช้ข้อมูลในการตัดสินใจเพียงอย่างเดียว ความรู้สึกไม่มีผลใด ๆ ในการส่งคำสั่งซื้อขาย ซึ่งเป็นผลดีมากในการทำการซื้อขายหุ้นในภาวะตลาดผันผวนสูง เพราะภาวะตลาดแบบนี้ทำให้คนมีความเครียดสูง ส่งผลด้านอารมณ์และความรู้สึก
AI ส่งคำสั่งได้ไวกว่าการเคาะซื้อของคนหลายเท่า
AI ใช้เวลาในการเทรดเร็วกว่าการคีย์เองอย่างมาก AI ใช้เวลาในการเลือกหุ้น ตัดสินใจซื้อและส่งคำสั่งซื้อได้ในหน่วยมิลลิวินาที (Millisecond) ส่งผลให้คำสั่งซื้อด้วยการคีย์มือของคนทำได้ช้ากว่าและเสียเปรียบ AI คนจึงเริ่มมีแนวโน้มที่จะเทรดเองน้อยลงและหันมาใช้เครื่องมือมากขึ้น และบริษัทนายหน้าจึงต้องปรับตัวโดยหันมาใช้เครื่องมือ AI มาช่วยเทรดหุ้นและลงทุนในกองทุนต่าง ๆ
เสน่ห์การเทรดหายไปแต่ได้ผลตอบแทนที่สูงกว่า
แม้ว่า AI จะสามารถเทรดแทนคนได้ ทำให้ประหยัดทรัพยากร คือลดการจ้างงานทรัพยากรบุคคลลง แต่ในอีกแง่หนึ่งนั้น จะทำให้ตลาดหมดเสน่ห์ไป ทำให้นักเทรดรายย่อยไม่อยากเข้ามาเล่น เพราะรู้สึกว่าไม่สามารถสู้กับโรบอทได้ แต่กับบางคนกลับมองว่า AI คือโอกาส เพราะ AI สามารถตัดสินใจได้รวดเร็ว แม่นยำ และให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า โดยที่นักลงทุนไม่จำเป็นต้องเสียเวลาหาความรู้ศึกษาหุ้น นั่งเฝ้าหน้าจอ หรือตัดสินใจใด ๆ การเทรดทั้งหมดยกหน้าที่ให้โรบอทไปได้เลย