รู้ก่อนดีกว่า ทุกอย่างเกี่ยวกับหุ้นกู้
03 Jul 2024 | 455
- Deepscope Site Admin
หุ้นกู้กลายเป็นตัวเลือกการลงทุนที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ และความเสี่ยงที่ต่ำกว่าการลงทุนในหุ้นสามัญ
อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจลงทุนในหุ้นกู้ นักลงทุนควรศึกษาข้อมูล และทำความเข้าใจรายละเอียดต่างๆ อย่างรอบคอบ เพื่อตัดสินใจลงทุนได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมกับความเสี่ยงที่รับได้
บทความนี้ Deepscope จะสรุปประเด็นสำคัญ ที่นักลงทุนควรรู้ก่อนลงทุนหุ้นกู้
หุ้นกู้ หรือตราสารหนี้
เป็นหลักทรัพย์ที่ออกโดยผู้กู้ (บริษัทเอกชน รัฐบาล หรือหน่วยงานต่างๆ) เพื่อระดมทุนจากผู้ลงทุน โดยผู้กู้สัญญาว่าจะชำระเงินต้น และดอกเบี้ยให้แก่ผู้ลงทุนตามระยะเวลาที่กำหนด
คุณสมบัติของหุ้นกู้
1. เป็นสัญญาเงินกู้ระยะยาว: หุ้นกู้โดยทั่วไปจะมีอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป
2. มีดอกเบี้ย: ผู้ลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยจากการลงทุนในหุ้นกู้ อัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ความเสี่ยงของผู้กู้ ระยะเวลาของหุ้นกู้ และสภาวะตลาด
3. มีมูลค่าที่แน่นอน: หุ้นกู้แต่ละหน่วยจะมีมูลค่าที่แน่นอนกำหนดไว้ เช่น หน่วยละ 1,000 บาท
สามารถซื้อขายได้: หุ้นกู้สามารถซื้อขายได้ในตลาดรอง นักลงทุนสามารถซื้อหุ้นกู้จากผู้ถือหุ้นกู้รายอื่นได้
ประเภทของหุ้นกู้
1. หุ้นกู้ประเภทด้อยสิทธิ
: ผู้ลงทุนในหุ้นกู้ประเภทนี้มีสิทธิได้รับชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นลำดับรองจากเจ้าหนี้ประเภทอื่น ในกรณีที่ผู้กู้ล้มละลาย
2. หุ้นกู้ประเภทแปลงสภาพ
: ผู้ลงทุนมีสิทธิแปลงหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญของผู้กู้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้
3. หุ้นกู้ประเภทมีประกัน
: มีหลักประกันรองรับการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย เช่น ที่ดิน อาคาร หรือทรัพย์สินอื่นๆlบี้ยจากการลงทุนในหุ้นกู้เป็นประจำ
4. ความเสี่ยงต่ำ
: หุ้นกู้โดยทั่วไปถือว่ามีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในหุ้นสามัญ
5. สภาพคล่องปานกลาง
: หุ้นกู้สามารถซื้อขายได้ในตลาดรอง นักลงทุนสามารถแปลงสภาพเป็นเงินสดได้เมื่อต้องการ
ความแตกต่างของ หุ้นกู้ตลาดแรก vs ตลาดรอง
หุ้นกู้ตลาดแรก (Primary Market)
คือ หุ้นกู้ออกใหม่ที่มีการเสนอขายให้กับนักลงทุนเป็นครั้งแรก โดยผู้ออกจะเสนอขายตามกลุ่มนักลงทุน 2 ประเภทหลัก คือ นักลงทุนทั่วไป (Public Offering: PO) และผู้ลงทุนในวงจำกัด (Private Placement: PP)
นักลงทุนที่สนใจสามารถซื้อหุ้นกู้ตลาดแรกได้ผ่านบริษัทหลักทรัพย์และธนาคารพาณิชย์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายหุ้นกู้นั้น ๆ โดยจะเสนอขายตามราคาหน้าตั๋ว (Par Value) และมีกำหนดระยะเวลาซื้อขายหุ้นกู้ที่แน่นอน
หุ้นกู้ตลาดรอง (Secondary Market)
คือ การซื้อขายหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดอายุที่ซื้อขายเปลี่ยนมือระหว่างนักลงทุนด้วยกันเองผ่านตัวกลางซึ่งคือบริษัทหลักทรัพย์และธนาคารพาณิชย์ โดยราคาที่เสนอซื้อขายอาจมากกว่าหรือน้อยกว่าราคาหน้าตั๋วก็ได้ ขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ทั้งนี้นักลงทุนสามารถพิจารณาซื้อขายหุ้นกู้ในตลาดรองได้ทุกวัน โดยไม่จำเป็นต้องรอช่วงเสนอขายเหมือนกับหุ้นกู้ตลาดแรก
ข้อเสียของการลงทุนในหุ้นกู้
1. ผลตอบแทนไม่แน่นอน: ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นกู้จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อัตราดอกเบี้ย ความเสี่ยงของผู้กู้ และสภาวะตลาด
2. ความเสี่ยงด้านเครดิต: มีความเสี่ยงที่ผู้กู้จะผิดนัดชำระหนี้ นักลงทุนอาจสูญเสียเงินต้นทั้งหมดหรือบางส่วน
3. ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย: มูลค่าของหุ้นกู้จะผันผวนตามทิศทางของอัตราดอกเบี้ย หากอัตราดอกเบี้ยขึ้น มูลค่าของหุ้นกู้จะลดลง
หุ้นกู้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนที่ดี เพราะได้ผลตอบแทนคงที่สม่ำเสมอ แต่บางตัวก็มีความเสี่ยงที่สูงมากๆเช่นกัน ต้องเลือกให้เก่ง!!
แต่ถ้าเพื่อนๆสนใจเลือกหุ้น หรือกองทุน ที่เมื่อเสียหายไม่เสียเงินทั้งก้อนแบบหุ้นกู้ สามารถเข้าใช้เว็บไซต์ของเรา เพื่อวิเคราะห์ก่อนตัดสินใจลงทุน
ลองใช้งาน *ฟรี* ที่นี่ -> https://deepscope.com/th/dashboard/
แหล่งข้อมูล
finnomena.com/z-admin/what-is-corporate-bond/
thaibma.or.th/
sec.or.th/TH/Pages/Home.aspx