5 อภิมหาเศรษฐีอันดับแรกของโลก มั่งคั่งขึ้นกว่าเดิม 2 เท่าในช่วง 4 ปี

เว็บไซต์ของนิตยสาร Forbes ระบุว่า อ็อกซ์แฟม (Oxfam) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรในอังกฤษ เปิดเผยรายงานล่าสุด ซึ่งเผยแพร่ในวันแรกของการประชุมสุดยอด World Economic Forum ในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ระบุว่า มหาเศรษฐี 5 คนแรกของโลก มีรายได้รวมกันเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่านับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นจาก 4.05 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 8.69 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง

โดยรายชื่อการจัดอันดับมหาเศรษฐีของ Forbes ที่อ็อกซ์แฟมนำมาคำนวณนั้น
ประกอบด้วย
1. อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซึ่งเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
2. เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ (Bernard Arnault)
3. เจฟฟ์ เบโซส (Jeff Bezos)
4. แลร์รี เอลลิสัน (Larry Ellison)
5. มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg)

อมิตาภ เบฮาร์ (Amitabh Behar) รักษาการผู้อำนวยการบริหาร Oxfam International ระบุว่า “เรากำลังเห็นจุดเริ่มต้นของทศวรรษแห่งการแบ่งแยก โดยผู้คนหลายพันล้านคนต้องแบกรับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดใหญ่ ภาวะเงินเฟ้อ และสงคราม ในขณะที่ความมั่งคั่งของบรรดามหาเศรษฐีกำลังเพิ่มขึ้น” และเพิ่มเติมว่า “ความไม่เท่าเทียมกันครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ โดยชนชั้นมหาเศรษฐีทำให้เห็นชัดขึ้นเรื่อย ๆ ว่า บริษัทได้มอบความร่ำรวยให้พวกเขามากขึ้น ขณะที่คนอื่น ๆ กำลังสูญเสียความมั่งคั่ง”

ผลการวิจัยของอ็อกซ์แฟมครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า ประเทศร่ำรวยที่พัฒนาแล้ว หรือ Global North ซึ่งมีสัดส่วนคิดเป็น 21% ของประชากรโลก แต่ถือครองความมั่งคั่งทั่วโลกถึง 69% และเป็นที่อยู่อาศัยของมหาเศรษฐี 74% ของโลก นอกจากนี้กลุ่มคนที่ร่ำรวยที่สุด 1% ยังเป็นเจ้าของสินทรัพย์ทางการเงินทั่วโลกถึง 43%

การเลือกลงทุนในสิ่งที่มีโอกาสเติบโตสูง ก็สามารถทำให้เพื่อนๆร่ำรวยขึ้นเป็นเศรษฐีได้ แต่อาจต้องใช้ความพยายามและมานะอดทนเป็นอย่างมาก

เพื่อนๆที่ต้องการความมั่งคั่งในอนาคต อาจต้องเริ่มลงทุนในวันนี้
ถ้าจะซื้อทรัพย์สินเพื่อการลงทุน เช่น หุ้น กองทุน อย่าลืมวิเคราะห์ให้มากๆ ทั้งด้านปัจจัยพื้นฐานและจังหวะเข้าซื้อหรือเทคนิค ให้เครื่องมือฟรีช่วยเซฟเวลาให้ท่าน
ลองใช้งานเลยที่นี่ https://bit.ly/3SHKdb4

บทความที่น่าสนใจ

AI กำลังเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจอย่างไร? เทคโนโลยีแห่งอนาคตที่นักลงทุนไม่ควรพลาดการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวกับ AI (Artificial Intelligence)  กำลั

3 เหตุผลที่นักลงทุนไม่ควรมองข้ามหุ้น AI 1. ศักยภาพการเติบโตที่สูง: ตลาด AI มีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็วในอีกหลายปีข้างหน้า ทำให้บริษ

เครื่องมือที่นักลงทุนสามารถใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด เคล็ดลับการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดเพื่อการลงทุนที่แม่นยำสิ่งสำคัญคือการรู้แนวโน้มของตลาด (Market Trend)