Web
                        Analytics
สรุปสถานการณ์การลงทุน วันที่ 23/12/2019

สรุปสถานการณ์การลงทุน วันที่ 23/12/2019

23 Dec 2019   |    1052


Global Economy

[Trade war] จีนประกาศจะยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ จำนวน 6 รายการ ซึ่งประกอบไปด้วย ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และปิโตรเคมีบางชนิด โดยจะได้รับจากยกเว้นภาษีเป็นเวลา 1ปี นับตั้งแต่วันที่ 26ธ.ค. นี้ ทั้งนี้ทั้งสองประเทศมีการประกาศบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสหนึ่งที่จะลดภาษีบางอย่าง และยกเลิกการขึ้นภาษีตอบโต้กันในวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้มีการลงนามข้อตกลงดังกล่าว

[US] มีความคืบหน้าการเจรจาข้อตกลงการค้าสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา (The United States-Mexico-Canada Agreement: USMCA) ซึ่งจะเพิ่มความเข้มงวดด้านการค้าและการผลิตมากขึ้น ได้แก่

  • การเพิ่มสัดส่วนชิ้นส่วนรถยนต์ที่ต้องผลิตภายใน 3 ประเทศข้างต้น จากเดิมสัดส่วน 62.5% เป็น 75% ของทั้งหมด
  • ต้องใช้เหล็กและอะลูมิเนียมจาก 3 ประเทศนี้ 70%
  • ชิ้นส่วนรถยนต์สัดส่วน 40% ของรถยนต์ ต้องมาจากพื้นที่การผลิตที่ให้ค่าแรงเฉลี่ยมากกว่า 16 ดอลลาร์ / ชั่วโมง ขึ้นไป (ราว 510 บาท / ชั่วโมง)

[ECB] ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายคงอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0%, คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50%, คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%

[ECB] ขณะเดียวกัน ECB ย้ำาว่าจะเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดย ECB จะซื้อพันธบัตรในวงเงิน 2 หมื่นล้านยูโร/เดือน

[China] จีนประกาศลดภาษีนำเข้าชั่วคราวสำหรับสินค้าสำคัญจำนวนกว่า 850 รายการ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2020 เป็นต้น โดยปรับลดต่ำกว่าอัตรา most-favored-nation tariffs ซึ่งเป็นอัตราภาษีนำเข้าที่เรียกเก็บเท่ากันกับทุกประเทศ ตัวอย่างการลดภาษีเช่น หมูแช่แข็ง ลดจาก 12% เป็น 8%, อโวคาโดแช่แข็ง ลดจาก 30% เป็น 7% และสินค้าเซมิคอนดัคเตอร์,ยาโรคหอบหืด,ยาโรคเบาหวาน, ไม้บางประเภทและกระดาษ ลดเหลือ 0% และตั้งเป้าจพลดภาษีสินค้า ICT ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2020

Thailand Economy

กนง. คงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.25% พร้อมทั้งปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2019-20 ลงสู่ 2.5% และ 2.8% โดยชี้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจขยายตัว “ต่ำกว่าที่ประเมินไว้” และ “ต่ำกว่าระดับศักยภาพ” รวมไปถึงอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย โดยศูนย์วิจัย SCBEIC ประเมิน กนง. คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องที่ 1.25% ในปี 2020 จากความเสี่ยงด้านต่ำในต่างประเทศที่ปรับลดลง และต้องการรักษา policy space เพื่อรองรับความเสี่ยงในระยะต่อไป

ข้อตกลง USMCA อาจกระทบยอดส่งออกรถยนต์จากไทยผ่านเม็กซิโกไปอเมริกา (สัดส่วน 8% ของยอดส่งออกรถยนต์ทั้งหมดของไทย) เนื่องจากไม่เข้าเกณฑ์ USMCA ข้างต้น

กรอบการลงทุน

ดัชนี SET ณ สิ้นวันศุกร์ อยู่ที่ระดับ 1573.91 จุด จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1572.92 จุด ปรับขึ้นยืนเหนือแนวรับ 1570 หลังปรับตัวลดต่ำสุดที่ 1543.22 ในช่วงกลางสัปดาห์

สังเกตุนักลงทุนสถาบันจะสะสมเงินและเข้าซื้อหุ้นเมื่อมีความแน่นอนในพัฒนาการเชิงบวกของเศรษฐกิจไทยและสงครามการค้า

การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีความชัดเจนขึ้นชั่วคราว แต่ยังสามารถคาดหวังเชิงบวกได้จนถึงการเลือกตั้งสหรัฐในปีหน้าปี 2020

แนวต้านระยะสั้น คือ 1750,1716,1677,1650,1570 แนวรับระยะสั้นคือ 1545,1525 (กรอบ Correction)

ในระยะกลาง แนวรับสำคัญมากคือ 1570+-10, และแนวต้านที่ 1770

ตลาดยังคงให้ความสำคัญกับหุ้นกลุ่ม Defensive ที่มีกระแสเงินสดมั่นคง และมีความต้านทานต่อสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว


Share this article: